วันเข้าพรรษาปี 2567 ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม
ประวัติความเป็นมาของวันเข้าพรรษา
ย้อนกลับไปในสมัยพุทธกาล พระภิกษุสงฆ์ต้องเดินทางไปตามถิ่นต่างๆ เพื่อ弘扬พระพุทธศาสนา บางครั้งก็ต้องอาศัยพักแรมตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งในช่วงฤดูฝน การเดินทางลำบาก ประกอบกับมีบางกลุ่มที่เข้าใจผิดคิดว่าพระภิกษุสงฆ์มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม พระพุทธเจ้าจึงทรงบัญญัติให้พระภิกษุสงฆ์งดการเดินทาง จำพรรษาอยู่ที่ใดที่หนึ่งเป็นเวลา 3 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ประเพณีนี้จึงเรียกว่า “วันเข้าพรรษา”
วัตถุประสงค์ของการเข้าพรรษา
- เพื่อความสะดวกในการจำพรรษา พระภิกษุสงฆ์จะได้ไม่ต้องเดินทางไปไหนมาไหน ซึ่งจะช่วยให้มีเวลาศึกษาพระธรรมวินัย ปฏิบัติธรรม และ弘扬พระพุทธศาสนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เพื่อป้องกันมิให้พระภิกษุสงฆ์ถูกเข้าใจผิด ในสมัยโบราณ การเดินทางลำบาก พระภิกษุสงฆ์ต้องอาศัยพักแรมตามสถานที่ต่างๆ บางครั้งก็ต้องขออาศัยพักใต้ต้นไม้ ชาวบ้านบางกลุ่มจึงเข้าใจผิดคิดว่าพระภิกษุสงฆ์มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม การเข้าพรรษาจึงช่วยป้องกันมิให้เกิดความเข้าใจผิดดังกล่าว
- เพื่อเป็นการส่งเสริมให้พระภิกษุสงฆ์ได้อยู่จำพรรษาตามวัดต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้วัดวาอารามมีความเจริญรุ่งเรือง พระภิกษุสงฆ์ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียน และ弘扬พระพุทธศาสนาได้อย่างสะดวก
ความสำคัญของวันเข้าพรรษา
- เป็นการส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสทำบุญ พุทธศาสนิกชนนิยมทำบุญตักบาตร ถวายเทียนพรรษา ผ้าอาบน้ำฝน และจตุปัจจัยไทยธรรม เพื่อเป็นการทำบุญกุศลและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพระภิกษุสงฆ์กับพุทธศาสนิกชน
- เป็นการส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมวินัย พุทธศาสนิกชนนิยมไปวัดฟังธรรมเทศนา รักษาศีล งดเว้นอบายมุข ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนมีศีลธรรมและจริยธรรม
- เป็นการส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสปฏิบัติธรรม พุทธศาสนิกชนนิยมเข้าวัดปฏิบัติธรรม ฝึกสมาธิ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนมีสติ ปัญญา และความสงบสุขในจิตใจ
วันเข้าพรรษา จึงเป็นวันที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนควรน้อมนำไปปฏิบัติ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง และเป็นการพัฒนาตนเองให้มีศีลธรรมและจริยธรรม